มารู้จักองุ่น Syrah หรือ Shiraz ประวัติที่มาและความแตกต่าง องุ่นสายพันธุ์เดียวกัน แต่อะไรทำให้แตกต่าง

Syrah หรือ Shiraz ประวัติที่มาและความแตกต่าง

เจาะลึกเรื่องราวองุ่นแดงชื่อก้อง “Syrah” หรือ “Shiraz” เผยต้นกำเนิด เส้นทางสู่ไวน์ระดับโลก และความลับเบื้องหลังชื่อที่ต่างกัน พร้อมพาคุณไปลิ้มรสไวน์แต่ละสไตล์!

Syrah หรือ Shiraz ประวัติที่มาและความแตกต่าง

เปิดตำนานองุ่นพันธุ์ “Syrah”: จากแคว้นโรน (Rhône Valley) สู่ทั่วโลก

เคยสงสัยไหมว่า ไวน์แดงรสเข้มข้น หอมกรุ่นผลไม้สุก และแฝงกลิ่นพริกไทยเผ็ดร้อน ที่หลายคนหลงใหล นั้นมาจากองุ่นพันธุ์อะไร? คำตอบก็คือ “Syrah” องุ่นชื่อดังจากทางเหนือของแคว้นโรน (Rhône Valley) ของฝรั่งเศส แต่รู้ไหมว่า องุ่นพันธุ์เดียวกันนี้ในอีกซีกโลกทางออสเตเลีย กลับเรียกกันว่า “Shiraz”

กำเนิดในและเติบโตในหุบเขาโรน

แม้จะมีหลักฐานยืนยันว่า องุ่นSyrahมีต้นกำเนิดในประเทศกรีซ แต่เส้นทางแห่งชื่อเสียงของมันกลับเริ่มต้นที่หุบเขาอันงดงามของแคว้นโรน แสงแดดอันอบอุ่น ช่วงฤดูร้อนที่แห้งแล้ง และดินปนหินของภูมิภาคนี้ ต่างเป็นปัจจัยสำคัญที่หล่อหลอมให้Syrahมีเปลือกสีเข้ม สารแทนนินสูง รสชาติเข้มข้น และกลิ่นหอมหลากมิติ เผยกลิ่นผลไม้ดำ พริกไทย เครื่องเทศ และแม้กระทั่งควันไฟได้อย่างน่าหลงใหล

Syrah หรือ Shiraz ประวัติที่มาและความแตกต่าง

จุดเด่นของSyrah: ผลเล็ก รสเข้ม และบุคลิกหลากหลาย

องุ่นSyrah ผลเล็ก ช่อแน่น และเปลือกหนา ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวเช่นนี้ ไวน์ที่ได้จึงมีสีเข้มทึบ สารแทนนินสูง ให้สัมผัสฝาด นอกจากนี้ อากาศในช่วงสุดท้ายก่อนเก็บเกี่ยว ส่งผลให้ไวน์ซีราห์มีกลิ่นหอมที่หลากหลาย ตั้งแต่ผลไม้ดำอย่างแบล็คเบอร์รี พลัม ไปจนถึงเครื่องเทศ พริกไทย และกลิ่นดิน

จาก “Syrah” สู่ “Shiraz”: การเดินทางข้ามน้ำข้ามทวีป

ในศตวรรษที่ 19 องุ่นซีราห์ได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทวีปสู่ดินแดนใหม่อย่างออสเตรเลีย ภายใต้ชื่อที่เปลี่ยนไปเป็น “Shiraz” เหตุผลที่ชื่อเปลี่ยนนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่มีทฤษฎีหนึ่งสันนิษฐานว่า ชาวอังกฤษที่เข้ามาตั้งรกรากในออสเตรเลีย ได้นำองุ่นSyrahมาปลูก แต่ออกเสียงชื่อผิดเพี้ยนเป็น “Shiraz” แทน

Syrah หรือ Shiraz ประวัติที่มาและความแตกต่าง

สู่ดินแดนแห่งแสงแดด: Shirazแห่งออสเตรเลีย

ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศอบอุ่น เหมาะกับการปลูกองุ่นShirazเป็นอย่างดี ส่งผลให้ไวน์Shirazจากออสเตรเลียมีรสชาติเข้มข้น ฟูลบอดี้ สัมผัสถึงผลไม้สุก และกลิ่นพริกไทยเผ็ดร้อน เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วโลก

ไวน์สไตล์ออสเตรเลีย: เข้มข้น ผลไม้สุก เผ็ดพริกไทย

ไวน์ซีรัซจากออสเตรเลียมักถูกบ่มในถังไม้โอ๊คเป็นเวลานาน เพื่อเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมที่ซับซ้อน ไวน์สไตล์นี้จึงมีสีเข้ม รสชาติเข้มข้น เต็มไปด้วยกลิ่นผลไม้สุก เช่น แบล็คเบอร์รี พลัม ราสเบอร์รี และแบล็คเคอร์แรนท์ รวมไปถึงกลิ่นเครื่องเทศ เช่น พริกไทย กานพลู และอบเชย

มารู้จักองุ่น Syrah หรือ Shiraz ประวัติที่มาและความแตกต่าง องุ่นสายพันธุ์เดียวกัน แต่อะไรทำให้แตกต่าง

ไขข้อข้องใจ: “Syrah” กับ “Shiraz”ต่างกันตรงไหน?

หากมองจากมุมมองทางวิทยาศาสตร์ องุ่น Syrah กับ Shiraz เป็นองุ่นสายพันธุ์เดียวกัน ดังนั้นจึงมีรสชาติที่คล้ายคลึงกัน แต่จากปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพภูมิอากาศ การบ่ม และเทคนิคการผลิต ส่งผลให้ไวน์ Syrah และ Shiraz จากแต่ละภูมิภาคมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไปด้วยปัจจัยที่ว่ามาเหล่านั้น

Syrah หรือ Shiraz ประวัติที่มาและความแตกต่าง

สภาพภูมิอากาศและการบ่ม: ตัวแปรสำคัญ

สภาพภูมิอากาศเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดรสชาติของไวน์ องุ่นซีราห์ที่ปลูกในภูมิภาคที่มีภูมิอากาศอบอุ่น เช่น ออสเตรเลีย อเมริกา และแอฟริกาใต้ มักมีรสชาติเข้มข้น ผลไม้สุก และกลิ่นพริกไทยเผ็ดร้อน เนื่องจากองุ่นได้รับแสงแดดและความร้อนมาก ส่งผลให้ผลไม้สุกเร็วและอุดมไปด้วยน้ำตาล

ในทางกลับกัน องุ่น Syrah ที่ปลูกในภูมิภาคที่มีภูมิอากาศเย็นกว่า เช่น นิวซีแลนด์ มักมีรสชาติเบากว่า เนื่องจากองุ่นได้รับแสงแดดและความร้อนน้อย ส่งผลให้ผลไม้สุกช้าและน้ำตาลน้อยลง

การบ่มก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อรสชาติของไวน์ องุ่นซีราห์มักถูกบ่มในถังไม้โอ๊คเพื่อเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมที่ซับซ้อน ระยะเวลาการบ่มที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ไวน์มีรสชาติที่แตกต่างกันไปด้วย

สไตล์และรสชาติ: ความต่างที่สัมผัสได้

หากเปรียบเทียบไวน์ Syrah กับ Shiraz จากภูมิภาคต่าง ๆ จะเห็นได้ว่า ไวน์ Shiraz จากออสเตรเลียมีรสชาติเข้มข้น ผลไม้สุก และกลิ่นพริกไทยเผ็ดร้อนมากที่สุด รองลงมาคือไวน์ Shiraz จากอเมริกา ไวน์ Shiraz จากแอฟริกาใต้ และไวน์ Shiraz จากนิวซีแลนด์

โดยสรุปแล้วSyrah กับ Shiraz เป็นองุ่นสายพันธุ์เดียวกัน ที่ฝรั่งเศสจะเรียกSyrah กับ ที่ออสเตเลียจะเรยีก Shiraz และทั้งสองแต่มีรสชาติที่แตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพภูมิอากาศ การบ่ม และเทคนิคการผลิต ความแตกต่างนี้เองที่ทำให้องุ่นซีราห์เป็นองุ่นที่หลากหลาย หากสนใจอยากดื่มไวน์ Syrah กับ Shiraz ติดต่อมาได้ที่ Toszy hosue ไวน์คุณภาพดีหลายตัว

บทความแนะนำ

Single Malt Whisky

3 วิธีดื่ม Single Malt Whiskyให้ได้รับกลิ่นและรสชาติมากที่สุด

Single Malt Whisky คืออะไร Toszy house ตามอ่านได้จากบทความก่อนหน้านี้วันนี้Toszy house จะมาบอก 3 วิธีดื่ม Single Malt Whisky ให้ได้รับกลิ่นและรสชาติมากที่สุดเพื่อให้การดื่ม Single Malt Whisky ข้าถึงรสชาติและกลิ่นที่แท้จริง ควรดื่มให้ถูกวิธีแล้วจะค้นพบกับสุดยอดรสชาติ เพราะ Single Malt เป็นมากว่าเหล้าธรรมดามาดูวิธีการดื่มต่างๆดังนี้ 1.

ทำความรู้จักกับองุ่น Tempranillo ราชาแห่งองุ่นแดงของสเปน

วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับองุ่น Tempranillo ให้มากขึ้น เรียนรู้ถึงที่มา ลักษณะเฉพาะตัว และไวน์ชั้นเยี่ยมที่ผลิตจากองุ่นชนิดนี้กัน ความหมายของชื่อ Tempranillo ชื่อ Tempranillo นั้นแปลมาจากภาษาสเปน คือคำว่า “temprano” ซึ่งแปลว่า  Early หรือ เร็ว ชื่อนี้สื่อถึงลักษณะเด่นขององุ่นสายพันธุ์นี้ ซึ่งก็คือการสุกงอมเร็วกว่าองุ่นสายพันธุ์อื่น ๆ ในสเปน องุ่น Tempranillo มักเก็บเกี่ยวได้ในช่วงปลายเดือนกันยายนหรือต้นเดือนตุลาคม ในขณะที่องุ่นสายพันธุ์อื่น

ไวน์จับคู่กับอาหารในเทศกาลวันตรุษจีน

แนะนำ ไวน์จับคู่กับอาหารในเทศกาลวันตรุษจีน

วันไหว้ตรุษจีนในปีนี้ ตรงกับวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 วันตรุษจีน (Chinese New Year) เป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน เทศกาลตรุษจีนให้ความสำคัญในเรื่องอาหารไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติเท่านั้นแต่มีความเชื่อกันว่าอาหารจะสามารถนำสิริมลคลมาให้แก่ครอบครัวอีกด้วย วันนี้ Toszy house จะมาแนะนำไวน์ที่จับคู่กับอาหารในเทศกาลวันตรุษจีน 1.อาหารประเภทเป็ด เป็ดย่าง เป็ดพะโล้ จับคู่กับไวน์แดงที่มีบอดี้เบาไปถึงกลางได้ดี อาทิเช่นไวน์ที่ทำจากองุ่นพันธุ์ Pinot noir ถ้ารสชาติอาหารเข้มข้นไขมันสูงก็สามารถจับคู่กับไวน์แดงที่ฟูลบอดี้ได้ อาจจะเป็นไวน์แดงที่ทำจากองุ่นCabernet sauvignon

แนะนำไวน์แดง Top 5 ไวน์แดงยี่ห้อไหนดี ที่ควรมีติดบ้านไว้

Top 5 ไวน์แดงยี่ห้อไหนดี ที่ควรมีติดบ้านไว้ ไวน์แดงเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพถ้าดื่มในปริมาณที่เหมาะสม เข้าถึงง่ายจับคู่กับอาหารได้มากมายหลายชนิด 1.Robert Mondavi รุ่น private selection ที่ใช้พันธุ์องุ่น cabernet sauvignon เป็นไวน์แดงจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มาแทนที่bin2กำลังเป็นที่นิยิมและมีชื่อเสียงในบ้านเรา เพราะ รสชาติ ฟูลบอดี้ หอม ไม่หวานมาก เข้าถึงง่าย ผู้เริ่มต้นดื่มไวน์หรือที่ชอบดื่มไวน์ถูกใจกันทุกคน ในไทยเรียกกันหัวเงิน

แนะนำอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเสิร์ฟไวน์

แนะนำอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเสิร์ฟไวน์

การดื่มไวน์นั้นอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเสิร์ฟไวน์เป็นสิ่งสำคัญมาก อุณหภูมิเปลี่ยนรสชาติ กลิ่นอาจเปลี่ยนไปวันนี้ Toszy house จะมาแนะนำอุณหภูมิในการเสิร์ฟไวน์ที่เหมาะสมกับไวน์แต่ละประเภท 1.ไวน์แดง Medium – Full bodied ไวน์แดงที่มีบอดี้กลางๆไปถึงฟูลบอดี้ เช่นไวน์แดงที่ทำจากองุ่นพันธุ์ cabernet sauvignon , Syrah/Shiraz , Malbec เป็นต้น อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเสิร์ฟนั้นจะอยู่ที่ 60°-65° F หรือ 15-18°C

Sagrantino องุ่นแดง 1 เดียวที่แทนนินมากและฝาดที่สุด

Sagrantino เป็นองุ่นพื้นเมืองของอิตาลี่ มีชื่อเสียงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาค Umbria โดยเฉพาะรอบๆ เมือง Montefalco องุ่น Sagrantino ปลูกเฉพาะในภูมิภาคอุมเบรียซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของอิตาลี พื้นที่นี้ซึ่งมีมอนเตฟาลโกเป็นศูนย์กลาง มีภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์โดยมีลักษณะเป็นดินร่วนปนทราย เอื้อให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการปลูกองุ่นซากรานติโน องค์ประกอบของดินร่วนทรายช่วยให้องุ่นมีความเจริญรุ่งเรือง โดยให้การระบายน้ำที่ดีเยี่ยมและการบำรุงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับองุ่นชนิดนี้ องุ่น Sagrantino มีชื่อเสียงในด้านผิวที่หนา ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษที่ทำให้องุ่นมีสีเข้มและมีแทนนินที่เข้มข้น ผิวที่หนาขององุ่นยังช่วยป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช จึงสามารถปลูกฝังได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ลักษณะที่แข็งแกร่งขององุ่นนั้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างระมัดระวังในระหว่างกระบวนการผลิตไวน์เพื่อดึงศักยภาพสูงสุดออกมาโดยไม่ทำให้เกิดอาการฝาดมากเกินไป ผู้ผลิตไวน์ใช้กระบวนการผลิตไวน์ที่อ่อนโยนและพิถีพิถันเพื่อแสดงคุณลักษณะเฉพาะขององุ่น Sagrantino