ทำความรู้จักกับ Mulled Wine เครื่องดื่มสำหรับวันคริสต์มาส สัมผัสความอบอุ่นละมุนละไมในแก้วไวน์รสเลิศ ค้นพบความหอมกรุ่นละมุนลิ้นของ Mulled Wine ไวน์ร้อนปรุงพิเศษ ส่วนผสม รสชาติ ประวัติความเป็นมา และเคล็ดลับการชง พร้อมให้คุณอุ่นกายสบายใจในทุกช่วงเวลา

Mulled Wine คืออะไร? เป็นไวน์ร้อนปรุงพิเศษ

ทำความรู้จักกับ Mulled Wine เครื่องดื่มสำหรับวันคริสต์มาส สัมผัสความอบอุ่นละมุนละไมในแก้วไวน์รสเลิศ ค้นพบความหอมกรุ่นละมุนลิ้นของ Mulled Wine ไวน์ร้อนปรุงพิเศษ ส่วนผสม รสชาติ ประวัติความเป็นมา และเคล็ดลับการชง พร้อมให้คุณอุ่นกายสบายใจในทุกช่วงเวลา

อากาศเย็นสบาย ชวนให้นึกถึงอะไร? สำหรับหลายคน คงนึกถึงลมหนาวที่โกรกผ่าน หน้าต่าง บรรยากาศอบอุ่นจากแสงไฟ และรสชาติละมุนของของหวานร้อน ๆ แต่สำหรับคอไวน์อย่างเรา ๆ ภาพที่แวบเข้ามานั้นชัดเจนยิ่งกว่า – แก้วไวน์สีแดงเข้มที่ระอุควัน หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นอบเชย ส้ม และเครื่องเทศนานาชนิด รสชาติหวานอมเปรี้ยว กลมกล่อมลงตัว นั่นแหละคือ “Mulled Wine” ไวน์ร้อนแสนพิเศษที่จะโอบอุ้มคุณให้อบอุ่นจากภายใน สัมผัสความละมุนละไมในค่ำคืนอันแสนพิเศษไปพร้อมกัน

ส่วนผสมหลักของ Mulled Wine: เรียบง่าย อบอุ่น ลึกล้ำในรสชาติ

ทำความรู้จักกับ Mulled Wine เครื่องดื่มสำหรับวันคริสต์มาส สัมผัสความอบอุ่นละมุนละไมในแก้วไวน์รสเลิศ ค้นพบความหอมกรุ่นละมุนลิ้นของ Mulled Wine ไวน์ร้อนปรุงพิเศษ ส่วนผสม รสชาติ ประวัติความเป็นมา และเคล็ดลับการชง พร้อมให้คุณอุ่นกายสบายใจในทุกช่วงเวลา

Mulled Wine ไม่ใช่แค่ไวน์อุ่นธรรมดา แต่มันคือศิลปะการปรุงรสที่ผสมผสานวัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่างเข้าด้วยกันอย่างลงตัว:

ไวน์แดง: หัวใจหลักของ Mulled Wine แนะนำให้ใช้ไวน์แดงแบบหวานเล็กน้อย เช่น พอร์ต (Port) ไซราห์ (Shiraz) หรือเมอร์โลต์ (Merlot) เพื่อสร้างฐานรสชาติที่กลมกล่อม ไม่แห้งฝาด

น้ำตาล: หวานกำลังดี ช่วยตัดเปรี้ยวและเสริมรสชาติของเครื่องเทศ โดยทั่วไปนิยมใช้น้ำตาลทรายแดง น้ำผึ้ง หรือไซรัปเมเปิ้ล (แต่ระวังอย่าใส่มากเกินไปจนกลบกลิ่นไวน์นะคะ)

เครื่องเทศ: นี่คือเวทมนตร์ที่แท้จริง! อบเชย กานพลู ส้ม เปลือกส้ม กระวาน ขิง หรือแม้แต่พริกไทยดำ ล้วนแล้วแต่เสริมกลิ่นหอมและรสชาติเฉพาะตัว ปรับเปลี่ยนสูตรตามใจชอบ เพิ่มความสดชื่น ความเผ็ดร้อน หรือความซับซ้อน สร้างสรรค์ไวน์ร้อนสไตล์คุณ!

ประวัติความเป็นมาMulled Wine : ดื่มด่ำตำนาน อุ่นไออดีต

Mulled Wine ไม่ใช่เทรนด์แฟชั่นที่เพิ่งฮิต แต่มันมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าที่คุณคิด! เชื่อกันว่ากำเนิดในสมัยโรมันโบราณ ชาวโรมันนิยมดื่มไวน์อุ่นกับเครื่องเทศเพื่อคลายหนาว (แอบกระซิบว่า ไวน์สมัยโน้นอาจจะไม่อร่อยอย่างไวน์ยุคปัจจุบัน การเติมเครื่องเทศจึงช่วยกลบกลิ่นและรสชาติที่ไม่อาจจะพึงประสงค์นัก) จากนั้นสูตรลับนี้ก็เดินทางผ่านกาลเวลา เผยแพร่ไปทั่วดินแดนยุโรป แต่ละท้องถิ่นปรับสูตรตามเอกลักษณ์เฉพาะ เช่น ในประเทศเยอรมนีจะเรียกว่า “Glühwein” ใส่แอปเปิ้ลและลูกเกาลอย ในอังกฤษเรียกว่า “Spiced Wine” เน้นกลิ่นหอมของอบเชยและเปลือกส้ม เรียกได้ว่า Mulled Wine คือบทสะท้อนวัฒนธรรมผ่านแก้วไวน์นั่นเอง

วิธีการชง Mulled Wine: ละมุน ง่าย ๆ ชงเองได้

ไม่ต้องเป็นบาร์เทนเดอร์มืออาชีพก็ทำ Mulled Wine ได้! เพียงมีอุปกรณ์ง่าย ๆ

หม้อต้ม (ไม่ควรเป็นอลูมิเนียม)
ช้อนไม้
ตะแกรงกรอง
แล้วเริ่มมากันเลย!

เทไวน์แดง น้ำตาล และเครื่องเทศลงในหม้อ
ตั้งไฟอ่อนจนเดือดปุด ๆ (ไม่ต้องเดือดจัดนะคะ ไม่งั้นแอลกอฮอล์จะระเหยหมด)
ชิมรส ปรับความหวาน เปรี้ยว เผ็ด ตามชอบ
กรองเครื่องเทศออก เทใส่แก้ว
เติมผลไม้สด หอมสด ลงไปเป็นอันเสร็จ

เคล็ดลับการชง Mulled Wine ให้อร่อย: ยกระดับประสบการณ์ Mulled Wine ของคุณไปอีกขั้นด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ เหล่านี้กันเลย:

ทำความรู้จักกับ Mulled Wine เครื่องดื่มสำหรับวันคริสต์มาส สัมผัสความอบอุ่นละมุนละไมในแก้วไวน์รสเลิศ ค้นพบความหอมกรุ่นละมุนลิ้นของ Mulled Wine ไวน์ร้อนปรุงพิเศษ ส่วนผสม รสชาติ ประวัติความเป็นมา และเคล็ดลับการชง พร้อมให้คุณอุ่นกายสบายใจในทุกช่วงเวลา

เลือกไวน์อย่างพิถีพิถัน: ไวน์คุณภาพดีจะส่งผลต่อรสชาติของ Mulled Wine อย่างมาก อย่าเสียดาย เลือกไวน์ที่คุณชอบดื่มแบบเปล่า ๆ นั่นแหละ (แต่จำไว้ว่ารสชาติหลังปรุงจะเปลี่ยนไป แนะนำให้เลือกแบบหวานเล็กน้อยเพื่อความบาลานซ์)

ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบเครื่องเทศ: ผสมผสานเครื่องเทศต่าง ๆ เพื่อสร้างสรรค์รสชาติเฉพาะตัว อยากเพิ่มความสดชื่น ลองใส่ส้ม เลมอน หรือเปลือกผลไม้ ชอบเผ็ดร้อน พริกไทยดำและลูกจันทน์เทศรอคุณอยู่ หรือจะเติมความซับซ้อนด้วยกระวาน ขิง หรือแม้แต่ใบมิ้นท์ เราจะสนุกไปกับการค้นหาเครื่องเทศที่ลงตัว!

ควบคุมอุณหภูมิให้พอดี: อย่าให้ไวน์เดือดจัด เพราะแอลกอฮอล์จะระเหยหมด รสชาติจะจืดชืด อุ่นให้เดือดปุด ๆ พอประมาณก็เพียงพอ (และจำไว้ว่ายิ่งทิ้งไว้นานเท่าไหร่ รสชาติเครื่องเทศจะยิ่งเข้มข้นขึ้น)

แต่งแต้มความสวยงาม: ผลไม้สด หอมสด กิ่งอบเชย หรือแม้แต่ดอกส้ม ไม่เพียงเพิ่มความสวยงาม แต่ยังเติมกลิ่นหอมละมุนให้ชวนหลงใหล อร่อยไม่พอต้องสวยงามด้วยนะ

ประโยชน์ของ Mulled Wine: อุ่นกาย สบายใจ ดีต่อสุขภาพ

Mulled Wine ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มคลายหนาว แต่ยังแอบซ่อนประโยชน์ดี ๆ ไว้มากมาย:

ผ่อนคลายความเครียด: กลิ่นหอมอบอุ่นของเครื่องเทศส่งผลต่อระบบประสาท ช่วยลดความวิตกกังวล ชักชวนให้เข้าสู่โหมดพักผ่อน

บรรเทาอาการหวัด: อบเชย กานพลู และขิง มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ บรรเทาอาการหวัด ไอ เจ็บคอ (แต่ทดลองดูก่อน เพราะเครื่องเทศบางชนิดอาจระคายเคืองบางคน)

กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต: อบเชย พริกไทยดำ และขิง ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ร่างกายอบอุ่น เหมาะสำหรับดื่มในช่วงอากาศเย็น

ข้อควรระวังในการดื่ม Mulled Wine: จิบอย่างปลอดภัย อุ่นกายสบายใจ

ถึงจะเป็นเครื่องดื่มแสนวิเศษ แต่ Mulled Wine ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน:

ปริมาณที่เหมาะสม: แม้จะเป็นไวน์ร้อน แต่อย่าลืมว่ายังมีแอลกอฮอล์ ดื่มมากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพ แนะนำให้ดื่มในปริมาณที่พอดี (ประมาณแก้วเดียวต่อวัน)

ผู้ที่มีโรคประจำตัว: บางคนไม่เหมาะกับเครื่องเทศบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน ควรเลี่ยงน้ำตาลมากเกินไป โรคความดันโลหิตสูง ควรหลีกเลี่ยงพริกไทยดำ ปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มหากคุณมีโรคประจำตัวใด ๆ

ปิดท้าย: บทเพลงแห่งความอบอุ่นในค่ำคืนอันแสนพิเศษกับ Mulled Wine

Mulled Wine คือมากกว่าเครื่องดื่ม มันคือประสบการณ์ คือบรรยากาศ คือบทเพลงแห่งความอบอุ่นที่ขับกล่อมไปกับเสียงเพลง แสงไฟ และเสียงหัวเราะของคนที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นค่ำคืนอันหนาวเหน็บ เทศกาลแห่งความสุข หรือเพียงแค่วันธรรมดา ๆ ที่อยากเติมสีสัน Mulled Wine ก็พร้อมอยู่เคียงข้าง โอบอุ้มคุณให้อุ่นกาย สบายใจ และรื่นรมย์ไปกับรสชาติสุดพิเศษ หยิบแก้วไวน์ ด้วยเหตุนี้จึงเหมาะที่จะเป็นเครื่องดื่มสุดพิเศษในวันเครื่องดื่มของสำหรับวันคริสต์มาส

บทความแนะนำ

ดื่มอะไรช่วยให้แก้แฮงค์ หลังปาร์ตี้อันแสนหนักหน่วง

ดื่มอะไรช่วยให้แก้แฮงค์วันนี้ Toszy house จะมาแนะนำเครื่องดื่มช่วยแก้แฮงค์กัน คืนนี้คุณปาร์ตี้หนักมาจนดึกดื่น ตื่นเช้ามาก็รู้สึกปวดหัว มึนงง คลื่นไส้ ไม่อยากทำอะไร อาการเหล่านี้เป็นอาการของ แฮงค์ นั่นเอง การแฮงค์เกิดจากร่างกายขับแอลกอฮอล์ออกมาไม่หมด ส่งผลให้สารพิษตกค้างอยู่ในร่างกาย ทำให้เกิดอาการต่างๆ ตามมา มีเครื่องดื่มหลายชนิดที่เชื่อว่าช่วยแก้แฮงค์ได้ แต่จะได้ผลดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป ความรุนแรงของอาการแฮงค์ และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล และห้ามกินยาพาราในการแก้แฮงค์อย่างเด็ดขาดเป็นอันตรายอย่างมาก อาการแฮงค์ที่พบได้ทั่วไป ได้แก่

Cheese Board

ทำความรู้จัก ชีสบอร์ด คืออะไร พร้อมขั้นตอนการจัดชีสบอร์ด

หากจะดื่มไวน์แล้วหาอะไรมาเป็นเครื่องเคียง ชีสบอร์ดนี่หละคือคำตอบทำง่ายไม่อยาก Toszy house พาคุณมาทำความรู้จักกับ “ชีสบอร์ด” ศิลปะการจัดชีสสุดปัง พร้อมสูตรเด็ด ทำง่าย จัดสวย อร่อย ฟินๆ ชีสบอร์ด (Cheese Board) คือ ศิลปะการจัดชีสชนิดต่าง ๆ พร้อมเครื่องเคียงนานาชนิด บนถาดไม้หรือภาชนะสวยงาม เป็นที่นิยิมในต่างชาติทางตะวันตก โดยเน้นความหลากหลาย รสชาติที่ลงตัว และการจัดวางให้น่ารับประทาน เป็นเทรนด์ที่มาแรงทั่วโลก

ไขข้อสงสัย: Whisky vs Whiskey สะกดคนละแบบเพราะอะไร?

ไขข้อสงสัย: Whisky vs Whiskey สะกดคนละแบบเพราะอะไร?

หลายคนอาจจะยังไม่เคยสังเกตหรือไม่รู้ว่า คำว่า Whisky หรือ Whiskey ในเหล้าที่ดื่มกันนั้นมีการสะกดที่แตกต่างกันและ 2 คำนี้ มีความหมายเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร วันนี้ toszyhouse จะมาอธิบายให้ฟัง แม้ทั้งสองคำนี้จะมีวิธีการผลิตที่คล้ายคลึงกัน แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนสงสัยคือ คำว่า Whisky กับ Whiskey แท้จริงแล้วสะกดคนละแบบ ซึ่งหมายถึงเครื่องดื่มชนิดเดียวกันหรือไม่? คำตอบคือ ทั้งสองคำนี้สื่อถึงเครื่องดื่มชนิดเดียวกัน เพียงแต่มีการสะกดที่แตกต่างกันไปตามแหล่งผลิต Whisky: นิยมใช้สะกดแบบนี้ในประเทศ

เคล็ดลับที่ไม่ลับ วิธีล้างแก้วให้ใส สะอาด โดย น้ำส้มสายชู

เคล็ดลับที่ไม่ลับ วิธีล้างแก้วให้ใส สะอาด โดย น้ำส้มสายชู

แก้วเป็นภาชนะที่สำคัญเพราะใช้ดื่มใช้กินความสะอาดต้องมาก่อน วันนี้ Toszy house จะมาบอกคล็ดลับที่ไม่ลับ วิธีล้างแก้วให้ใส สะอาด โดย น้ำส้มสายชู ทำให้แก้วใส สะอาดปราศจากคราบน้ำ และเชื้อโรค การล้างแก้วปกติเราใช้ฟองน้ำและน้ำยาล้างจาน แต่ถ้าเราแช่แก้วเอาไว้หรือลืมล้างคราบเครื่องดื่มต่างๆออกปล่อยทิ้งไว้ก็เหมือนเสื้อผ้ามีคราบติดฝังแน่นลงลึงทำให้เกิดคราบน้ำที่ล้างไม่ออก ถึงแม้จะใช้ฟองน้ำ ถูขัดก็ยังมีคราบอยู่ ที่เด็ดคือใช้ น้ำส้มสายชู เข้ามาจัดการช่วย มีขั้นตอนง่ายๆดังต่อไปนี้ 1.เปิดน้ำใส่แก้วให้เต็มใส่น้ำยาล้างจานเข้าไป 1 ปั๊ม และน้ำส้มสายชูเข้าไป 1

แนะนำ : 3 แก้วดื่มเหล้า single malt ที่ควรมีไว้ติดบ้าน

แนะนำ : 3 แก้วดื่มเหล้า single malt ที่ควรมีไว้ติดบ้าน

ในการดื่มไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มประเภท แอลกอฮอล์ หรือ ไม่มีแอลกอฮอล์ก็ตาม แก้วที่ใช้ดื่มนั้นมีความสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะการดื่ม ดื่มเหล้า single malt รูปทรงแก้วแต่ละทรงถูกออกแบบมาให้ถูกแต่ละประเภทแตกต่างกัน วันนี้ Toszy house จะพาทำความรู้จะแก้วที่ควรมีไว้ติดบ้าน สำหรับนักดื่ม เพื่อเพิ่มอรรถรสในการดื่ม 1.แก้ว Glencairn แก้วที่ถูกออกแบบมาเพื่อรับรสและกลิ่นสัมผัสของเหล้า single malt ได้อย่างเต็มที่ สามารถดื่มแบบ neatหรือ drop น้ำ