ทำความรู้จัก เหล้า เหมาไถ: ตำนานสุราจีนชั้นเลิศ ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี

ทำความรู้จัก เหล้า เหมาไถ: ตำนานสุราจีนชั้นเลิศ ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี

วันนี้ toszy house จะพามาเปิดตำนานสุราจีนชั้นเลิศ “เหมาไถ” กับประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี เจาะลึกที่มา กรรมวิธีการผลิตอันเป็นเอกลักษณ์ และเคล็ดลับความอร่อยที่ทำให้เหมาไถครองใจนักชิมทั่วโลก

เหล้า เหมาไถ คืออะไร

เหมาไถ (Moutai) คือ ราชาแห่งสุราจีน จัดเป็นเหล้าประเภท ไป๋จิ่ว (Baijiu) ซึ่งแปลตรงตัวว่า “เหล้าขาว” มีจุดเด่นคือ มีสีใส กลิ่นหอมละมุน และรสชาติที่ซับซ้อน โดยเหล้าเหมาไถนั้น มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ทั้งในเรื่องของรสชาติ ประวัติศาสตร์อันยาวนาน และกระบวนการผลิตที่พิถีพิถัน

ความหมายของชื่อ “เหมาไถ”

ทำความรู้จัก เหล้า เหมาไถ: ตำนานสุราจีนชั้นเลิศ ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี

ชื่อ “เหมาไถ” นั้น มาจากสถานที่ผลิต นั่นคือ ตำบลเหมาไถ ตั้งอยู่ใน มณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งถือเป็นแหล่งผลิตเหล้าไป๋จิ่ว ที่มีคุณภาพเยี่ยมยอดมาอย่างยาวนาน

เหมาไถจัดเป็นเหล้าประเภทไหน

ทำความรู้จัก เหล้า เหมาไถ: ตำนานสุราจีนชั้นเลิศ ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี

สุราเหมาไถ จัดเป็นเหล้าไป๋จิ่ว (Baijiu) ซึ่งเป็นเหล้ากลั่นแบบจีนดั้งเดิม มีจุดเด่นคือ มีสีใส ผลิตจากธัญพืช เช่น ข้าวฟ่าง ข้าวสาลี และข้าวโพด โดยกรรมวิธีการผลิตนั้น เน้นการหมักและการกลั่นหลายรอบ ส่งผลให้ได้สุราที่มีกลิ่นหอม รสชาติซับซ้อน และมีแอลกอฮอล์ปริมาณสูง โดยสุราเหมาไถนั้น มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 53%

ต้นกำเนิดอันยาวนานของสุราเหมาไถหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชี้ชัด

แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า สุราเหมาไถนั้น มีต้นกำเนิดที่แน่นอน แต่จากหลักฐานทางโบราณคดี ชี้ให้เห็นว่า การกลั่นเหล้าไป๋จิ่ว นั้น มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (ราว 206 ปีก่อนคริสตกาล – 220 หลังคริสตกาล) ซึ่งนับว่าเป็นเวลายาวนานกว่า 2,000 ปี นั่นเอง

จุดกำเนิดที่ “มณฑลกุ้ยโจว” ดินแดนแห่งภูมิอากาศที่เหมาะสม

แม้ว่าการกลั่นเหล้าไป๋จิ่วจะมีมานานแล้ว แต่ตำนานของสุราเหมาไถนั้น เชื่อว่าเริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังในช่วงเวลาราว 400-500 ปีที่ผ่านมา ณ ตำบลเหมาไถ มณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

พื้นที่แห่งนี้ ถือเป็น “ดินแดนแห่งการผลิตสุราชั้นเลิศ” เลยก็ว่าได้ เพราะมี ภูมิอากาศที่เหมาะสม กับการเพาะปลูกธัญพืช แหล่งน้ำบริสุทธิ์ และ จุลินทรีย์เฉพาะถิ่น ที่เอื้อต่อกระบวนการหมัก โดยเฉพาะ แม่น้ำฉื่อสุ่ย (Chishui River) ซึ่งไหลผ่าน “แหล่งผลิตสุราเหมาไถ” นั้น มีชื่อเสียงโด่งดัง ในเรื่องของความใสสะอาด และอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพของสุรา

นอกจากนี้ สภาพอากาศที่อบอุ่นชื้น สลับกับฤดูหนาวที่เย็นจัด ใน “แหล่งผลิตสุราเหมาไถ” แห่งนี้ ยังส่งผลต่อกระบวนการผลิต โดยเฉพาะ ขั้นตอนการบ่ม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างสรรค์รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของสุราเหมาไถ

จะเห็นได้ว่า “มณฑลกุ้ยโจว” นั้น ไม่เพียงแค่เป็น สถานที่กำเนิด ของสุราเหมาไถเท่านั้น แต่ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ที่พิเศษเฉพาะตัว ยังมีบทบาทสำคัญ ในการสร้างคุณภาพ และ เอกลักษณ์ของสุราชั้นเลิศชนิดนี้ด้วย

เบื้องหลังความพิเศษ: กรรมวิธีการผลิตสุราเหมาไถ

ทำความรู้จัก เหล้า เหมาไถ: ตำนานสุราจีนชั้นเลิศ ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี

วัตถุดิบชั้นเลิศ: ข้าวฟ่าง ข้าวสาลี และน้ำจากแม่น้ำฉื่อสุ่ย

เคล็ดลับความอร่อยและคุณภาพอันเยี่ยมยอดของสุราเหมาไถ นั้น เริ่มต้นตั้งแต่ การคัดเลือกวัตถุดิบ ชั้นเลิศ โดยวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตสุราเหมาไถ ได้แก่

  • ข้าวฟ่าง (Sorghum): เป็นธัญพืชที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ และให้กลิ่นหอมเฉพาะตัว
  • ข้าวสาลี (Wheat): ช่วยเพิ่มความนุ่มนวล และความหวาน ให้กับรสชาติของสุรา
  • น้ำจากแม่น้ำฉื่อสุ่ย (Chishui River): น้ำบริสุทธิ์ ปราศจากมลภาวะ อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพ และ กลิ่น ของสุรา

กระบวนการผลิตอันซับซ้อน: นึ่ง หมัก และกลั่น อย่างพิถีพิถัน

กระบวนการผลิตสุราเหมาไถนั้น ถือเป็น หัวใจสำคัญ ที่สร้างสรรค์รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีขั้นตอนที่ ซับซ้อน และ พิถีพิถัน ดังนี้

  • การนึ่ง (Steaming): วัตถุดิบอย่างข้าวฟ่าง และ ข้าวสาลี จะถูกนำไปนึ่ง ถึง 9 ครั้ง เพื่อให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงแป้งเป็นน้ำตาล ซึ่งเป็นอาหารของยีสต์ในการหมัก
  • การหมัก (Fermentation): วัตถุดิบที่ผ่านการนึ่งแล้ว จะถูกนำไปหมักร่วมกับ ยีสต์ และ จุลินทรีย์เฉพาะถิ่น ใน บ่อเก็บขนาดใหญ่ เป็นระยะเวลานาน อย่างน้อย 1 ปี กระบวนการหมักนี้ จะเปลี่ยนน้ำตาล กลายเป็นแอลกอฮอล์การกลั่น
  • (Distillation): หลังจากการหมักเสร็จสิ้น วัตถุดิบจะถูกนำไป กลั่นซ้ำ อีก 7 ครั้ง ด้วย หม้อกลั่นทองแดงแบบโบราณ กระบวนการกลั่นนี้ ช่วยแยก แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ออกจาก กากตะกอน ส่งผลต่อ ความใส และ ความแรง ของสุรา

การบ่ม: หัวใจสำคัญที่สร้างสรรค์รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์

ทำความรู้จัก เหล้า เหมาไถ: ตำนานสุราจีนชั้นเลิศ ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี


ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุด คือ การบ่ม (Aging) สุราที่ผ่านการกลั่นแล้ว จะถูกนำไปเก็บรักษาใน ถังเก็บขนาดใหญ่ ที่ทำจาก ดินเผา เป็นระยะเวลานาน อย่างน้อย 3 ปี บางครั้งอาจยาวนานถึง 10 ปี หรือ 20 ปี เลยทีเดียว

กระบวนการบ่มนี้ มีผลต่อ รสชาติ กลิ่น และ สี ของสุราอย่างมาก โดย ระยะเวลายิ่งนาน สุราเหมาไถ จะมี สีที่เข้มขึ้น มี กลิ่นหอมที่ซับซ้อน นุ่มนวล และ รสชาติที่กลมกล่อม ยิ่งขึ้นความพิเศษของกรรมวิธีการผลิตสุราเหมาไถ นั้น ไม่เพียงแค่ จำนวนครั้ง ของการนึ่ง หมัก และ กลั่น เท่านั้น แต่ยังอยู่ที่ ฝีมือ ความชำนาญ และ ประสบการณ์ ของ ช่างผลิต ที่สืบทอดภูมิปัญญากันมาอย่างยาวนาน อีกด้วย

เหมาไถ: มากกว่าแค่เครื่องดื่ม สู่สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมจีน
สุราเหมาไถ มิได้เป็นเพียงแค่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชั้นเลิศเท่านั้น แต่ยังกลายเป็น สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันสำคัญของจีน อีกด้วย

สุราเหมาไถนั้นถูกนิยมนำมาดื่มในโอกาสสำคัญทางสังคมของชาวจีนไม่ส่าจะเป็น

งานเลี้ยงฉลอง: ไม่ว่าจะเป็น งานแต่งงาน งานเลี้ยงวันเกิด งานเลี้ยงต้อนรับแขก หรือ งานเลี้ยงสังสรรค์ สุราเหมาไถ ถือเป็นเครื่องดื่มที่ช่วย สร้างความสัมพันธ์อันดี และ แสดงความเคารพ แก่ผู้ร่วมงาน

ของขวัญอันทรงคุณค่า: ด้วยคุณภาพ ประวัติศาสตร์อันยาวนาน และ ราคาที่สูง สุราเหมาไถ จึงเป็น ของขวัญชั้นเลิศ ที่นิยมมอบให้ แก่บุคคลสำคัญ หรือ ในโอกาสพิเศษ

“ทูต” ผู้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

นอกจากนั้น สุราเหมาไถ ยังถูกใช้เป็น “ทูต” ในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อีกด้วย ตัวอย่างเช่น ในปี 1972 นายกรัฐมนตรีจีน โจว เอินไหล ได้เลือกใช้สุราเหมาไถ เป็นเครื่องดื่มเลี้ยงรับรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ริชาร์ด นิกสัน ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนจีน ซึ่งถือเป็น ก้าวสำคัญ ในการเปิดความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

เหล้าเหมาไถถือป็นตำนานสุราจีนชั้นเลิศที่ได้รับความนิยมทั้งในจีนและทั่วโลก ซึ่งบ้านเราก็มีลุ่มที่นิยมดื่มเหล้าเหมาไถเป็นจำนวนไม่น้อยด้วยเช่นกัน สำหรับวันนี้ทุกท่านก็ได้ทำความรู้จักกับเราเหมาไถไม่มากก็น้อยฝากติดตามบทความดีๆได้ที่ Toszyhouse

บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาโฆษณาขายสินค้าแต่อย่างใดเพียงแต่เป็นบทความให้ความรู้เท่านั้น

บทความแนะนำ

ชนแก้ว

ทำความรู้จัก 10 ประเทศเขาพูดคำว่า“ชนแก้ว”อย่างไรกันบ้าง

การดื่มของคุณสนุกสนานยิ่งขึ้น เตรียมแก้วให้พร้อม วันนี้ Toszy house จะพาคุณไปมาทำความรู้จักกับ 10 ประเทศ พูดว่า “ชนแก้ว” และออกเสียงยังไงกันบ้าง Share this… Facebook Line Twitter Pinterest

Sagrantino องุ่นแดง 1 เดียวที่แทนนินมากและฝาดที่สุด

Sagrantino เป็นองุ่นพื้นเมืองของอิตาลี่ มีชื่อเสียงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาค Umbria โดยเฉพาะรอบๆ เมือง Montefalco องุ่น Sagrantino ปลูกเฉพาะในภูมิภาคอุมเบรียซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของอิตาลี พื้นที่นี้ซึ่งมีมอนเตฟาลโกเป็นศูนย์กลาง มีภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์โดยมีลักษณะเป็นดินร่วนปนทราย เอื้อให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการปลูกองุ่นซากรานติโน องค์ประกอบของดินร่วนทรายช่วยให้องุ่นมีความเจริญรุ่งเรือง โดยให้การระบายน้ำที่ดีเยี่ยมและการบำรุงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับองุ่นชนิดนี้ องุ่น Sagrantino มีชื่อเสียงในด้านผิวที่หนา ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษที่ทำให้องุ่นมีสีเข้มและมีแทนนินที่เข้มข้น ผิวที่หนาขององุ่นยังช่วยป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช จึงสามารถปลูกฝังได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ลักษณะที่แข็งแกร่งขององุ่นนั้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างระมัดระวังในระหว่างกระบวนการผลิตไวน์เพื่อดึงศักยภาพสูงสุดออกมาโดยไม่ทำให้เกิดอาการฝาดมากเกินไป ผู้ผลิตไวน์ใช้กระบวนการผลิตไวน์ที่อ่อนโยนและพิถีพิถันเพื่อแสดงคุณลักษณะเฉพาะขององุ่น Sagrantino

ร้าน Toszy house

ไวน์แดงกินคู่กับอะไร: คู่มือจับคู่ไวน์แดงกับอาหารจานโปรด

ไวน์แดงกินคู่กับอะไร ปลดล็อคความอร่อยของไวน์แดงคู่กับอาหารจานเด็ด! คู่มือจับคู่ไวน์แดงกับอาหารไทยและเทศ พร้อมเคล็ดลับเลือกไวน์ให้อร่อยลงตัว ก่อนอื่นมาทำความรู้มาจักกับไวน์แดงก่อน เริ่ม!!! ไวน์แดงคือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตจากองุ่นแดง โดดเด่นด้วยรสชาติเข้มข้น แทนนินสูง และกลิ่นหอมของผลไม้ เบอร์รี่ ดอกไม้ และเครื่องเทศ เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมทั่วโลกมานานหลายศตวรรษ รสชาติและรสสัมผัสของไวน์แดง รสชาติของไวน์แดงมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับองุ่นที่ใช้ กรรมวิธีการผลิต และระยะเวลาการบ่ม โดยทั่วไปจะมีความฝาด แทนนินสูง มีรสเปรี้ยวจากกรดผลไม้ และรสหวานจากน้ำตาลธรรมชาติในองุ่น อาจมีกลิ่นหอมของผลไม้ เช่น

ไขข้อสงสัย!!! 5 ขนาดขวดไวน์ชื่อเรียกและความแตกต่างกัน

เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมขวดไวน์ถึงมีหลายขนาด? วันนี้ Toszy house จะมาชวนรู้จักขนาดขวดไวน์แบบต่างๆ พร้อมเผยเคล็ดลับเลือกขวดให้เหมาะกับโอกาส ไขข้อสงสัย! ขนาดของขวดไวน์มีกี่ขนาด อะไรบ้าง เคยมั้ยที่ไปร้านขายไวน์แล้วเจอขวดหลากหลายขนาด จนเกิดข้อสงสัยว่า “ทำไมมันถึงมีเยอะแยะ? ขนาดไหนเหมาะกับเรา?” บอกเลย! เรื่องนี้มีที่มาที่ไป และน่าสนใจกว่าที่คิด มาเริ่มรู้จักแต่ละขนาดกันเลย ขนาดมาตรฐาน: 750ml สามารถรินไวน์ 5-6 แก้วพอดี ขวด750ml หรือ 75cl

ทำความรู้จักกับ Sangiovese : องุ่นแดงเลื่องชื่อจากอิตาลี

สายพันธุ์องุ่น Sangiovese Sangiovese เป็นองุ่นแดงสายพันธุ์หนึ่งที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในอิตาลี คิดเป็นประมาณ 20% ของพื้นที่ปลูกองุ่นทั้งหมดในประเทศ องุ่นสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี เชื่อกันว่าเป็นพันธุ์องุ่นป่า (wild native grape) ในวงศ์ซิลเวสตริส (V.silvestris) ที่อาศัยอยู่ในอิตาลีตอนกลางตั้งแต่สมัยโรมันโบราณ องุ่น Sangiovese มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคของอิตาลี เช่นใน เรียกว่า Brunello di Montepulciano หมายถึง ไวน์แดงที่ผลิตจากผลองุ่นพันธุ์ซางจิโอเวเซ

ไขข้อสงสัย: Whisky vs Whiskey สะกดคนละแบบเพราะอะไร?

ไขข้อสงสัย: Whisky vs Whiskey สะกดคนละแบบเพราะอะไร?

หลายคนอาจจะยังไม่เคยสังเกตหรือไม่รู้ว่า คำว่า Whisky หรือ Whiskey ในเหล้าที่ดื่มกันนั้นมีการสะกดที่แตกต่างกันและ 2 คำนี้ มีความหมายเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร วันนี้ toszyhouse จะมาอธิบายให้ฟัง แม้ทั้งสองคำนี้จะมีวิธีการผลิตที่คล้ายคลึงกัน แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนสงสัยคือ คำว่า Whisky กับ Whiskey แท้จริงแล้วสะกดคนละแบบ ซึ่งหมายถึงเครื่องดื่มชนิดเดียวกันหรือไม่? คำตอบคือ ทั้งสองคำนี้สื่อถึงเครื่องดื่มชนิดเดียวกัน เพียงแต่มีการสะกดที่แตกต่างกันไปตามแหล่งผลิต Whisky: นิยมใช้สะกดแบบนี้ในประเทศ