สายพันธุ์องุ่น Sangiovese
Sangiovese เป็นองุ่นแดงสายพันธุ์หนึ่งที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในอิตาลี คิดเป็นประมาณ 20% ของพื้นที่ปลูกองุ่นทั้งหมดในประเทศ องุ่นสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี เชื่อกันว่าเป็นพันธุ์องุ่นป่า (wild native grape) ในวงศ์ซิลเวสตริส (V.silvestris) ที่อาศัยอยู่ในอิตาลีตอนกลางตั้งแต่สมัยโรมันโบราณ
องุ่น Sangiovese มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคของอิตาลี เช่นใน เรียกว่า Brunello di Montepulciano หมายถึง ไวน์แดงที่ผลิตจากผลองุ่นพันธุ์ซางจิโอเวเซ (Sangiovese) ที่ได้จากไร่องุ่นที่ปลูกในเขตพื้นที่ตำาบลMontalcino จังหวัดซิเอนา แคว้นทัสคานีประเทศอิตาลี่ เป็นต้น
ลักษณะขององุ่น Sangiovese
องุ่น Sangiovese เป็นองุ่นผลเล็ก กลม ผิวบาง มีสีม่วงเข้มเกือบดำ เปลือกมีแทนนินสูง ทำให้มีรสฝาด องุ่นสายพันธุ์นี้มีความต้านทานต่อโรคได้ดี แต่มีความอ่อนไหวต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
แหล่งปลูกองุ่น Sangiovese
องุ่น Sangiovese ปลูกกันอย่างแพร่หลายในอิตาลี โดยแหล่งปลูกที่สำคัญ ได้แก่ แคว้นทัสคานี (TUSCANY) แคว้นอุมเบรีย (Umbria) แคว้นมาร์เช (Marche) และแคว้นลีกูเรีย (Liguria)
นอกจากในอิตาลีแล้ว องุ่น Sangiovese ยังปลูกกันแพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ชิลี อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
ประวัติศาสตร์ของ Sangiovese
องุ่น Sangiovese มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์การผลิตไวน์ของอิตาลี องุ่นสายพันธุ์นี้ถูกนำมาใช้ในการผลิตไวน์ Chianti มาตั้งแต่สมัยโรมันโบราณ Chianti เป็นไวน์แดงอิตาลีที่มีชื่อเสียงระดับโลก และถือเป็นไวน์ที่ผลิตจากองุ่น Sangiovese เป็นหลัก
ในศตวรรษที่ 19 องุ่น Sangiovese เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในอิตาลี และเริ่มมีการปลูกองุ่นสายพันธุ์นี้ในภูมิภาคอื่นๆ ของอิตาลี ในช่วงศตวรรษที่ 20 องุ่น Sangiovese ได้รับการยอมรับจากนักไวน์ทั่วโลกว่าเป็นองุ่นสายพันธุ์ที่มีคุณภาพสูง และเริ่มมีการปลูกองุ่นสายพันธุ์นี้ในหลายประเทศทั่วโลก
ลักษณะของไวน์ Sangiovese
ไวน์ Sangiovese มีสีม่วงเข้ม กลิ่นหอมของผลไม้ เช่น เชอร์รี่ ราสเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ กลิ่นดอกไม้ เช่น ลิลลี่ กุหลาบ กลิ่นเครื่องเทศ เช่น อบเชย พริกไทย และกลิ่นดิน
รสชาติของไวน์ Sangiovese ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ภูมิภาคที่ปลูก วิธีการหมัก และระยะเวลาในการบ่ม ไวน์ Sangiovese โดยทั่วไปจะมีรสผลไม้เข้มข้น รสฝาดสูง รสเปรี้ยวเล็กน้อย และรสแทนนินปานกลาง
ไวน์ Sangiovese สามารถดื่มได้ทันทีหลังผลิต หรือสามารถบ่มไว้ได้นานหลายปี ระยะเวลาในการบ่มไวน์ Sangiovese ขึ้นอยู่กับประเภทของไวน์ เช่น ไวน์ Chianti โดยทั่วไปจะบ่มไว้ประมาณ 1 ปี ไวน์ Brunello di Montalcino โดยทั่วไปจะบ่มไว้อย่างน้อย 5 ปี
การจับคู่อาหารกับไวน์ Sangiovese
ไวน์ Sangiovese เข้ากันได้ดีกับอาหารอิตาเลียน เช่น พิซซ่า พาสต้า อาหารทะเล อาหารเนื้อย่าง และชีส